หลายคนอาจจะยังไม่เคยได้ยินหรือรู้ว่า ‘Wirecard’ มันคืออะไร ไม่ต้องเสียใจไป ผมก็พึ่งจะมารู้เมื่อกันว่ามันคืออะไร และมันมีประเด็นอะไรให้เราไปเรียนรู้
Wirecard เป็นบริษัทจากประเทศเยอรมัน เป็นบริษัท start up ที่ดำเนินกิจการทางด้านการจัดการการทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆผ่านระบบออนไลน์ (digital payment processing)
ความสำเร็จของบริษัทนี้โดนยกไปเปรียบเทียบกับ SAP บริษัทชั้นนำด้านซอฟทแวร์ของเยอรมันเลยทีเดียว และได้กลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่าทางตลาดมากที่สุดในเยอรมัน แต่นั่นมันกลายเป็นอดีตไปแล้ว
เรื่องราวมันมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนที่ผ่านมา บริษัทที่ตรวจสอบบัญชี (auditor) นามว่า EY ของ Wirecard นั้นพบว่าเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา ทาง EY นั้นไม่สามารถหาได้ว่าเงินจำนวน 1.9 พันล้านยูโร (2.1 พันล้านเหรียญ) ที่คิดเป็นมูลค่าเกือบหนึ่งในสี่ของงบดุลบริษัทนั้นมันหายไปไหน!
เงินจำนวนนี้นั้นคิดว่าน่าจะอยู่ในบัญชีที่รับฝากทรัพย์สินในประเทศฟิลลิปปินส์ แต่มันก็หาได้มีอยู่จริงไม่ พอพบได้ดังนั้น Wirecard จึงได้ถอนข้อมูลการรายงานผลประกอบการของปีงบประมาณปีที่แล้วกลับไปรวมถึงผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีนี้ด้วย
มาร์คัส บรอน (Markus Braun) ผู้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทก็ได้ลาออกในภายหลัง วันที่ 22 มิถุนายน Wirecard ได้ยอมรับว่าเงินจำนวน 1.9 พันล้านยูโรนั้น “อาจจะไม่มีอยู๋จริง” และเมื่อเวลานั้นเอง มูลค่าตลาดของ Wirecard กว่า 80% ก็ได้หายไปกับตาภายในเวลาซื้อขายในตลาดแค่ช่วงเวลาสามวันเท่านั้น
บรอน ก็ได้ถูกจับในเวลาต่อมาข้อหาใช้เทคนิคการปลอมแปลงบัญชีเพื่อปั่นรายได้ แม้ว่าในวันถัดมา บรอนจะได้ประกันตัวออกไป และในวันที่ 25 มิถุนายน ทาง Wirecard ก็ได้เข้าสู่กระบวนการล้มละลายต่อไป
ดูๆมันก็น่าเศร้าว่าความโด่งดังมันจะดับได้เร็วแบบนี้ ตอนที่คุณบรอนเข้าบริหาร Wirecard ในปี 2002 นั้นเขาได้แปลสภาพบริษัทจาก start up กลายเป็นผู้นำทางด้านการทำธุรกรรมการจ่ายเงินออนไลน์ โดยเสนอบริการให้กับเว็บโป๊และเว็บการพนันทั้งหลายแหล่ ซึ่งบริษัทที่ทำธุรกรรมการเงินแบบเดียวกันบริษัทอื่นๆนั้นไม่กล้านำเสนอบริการให้กับเว็บไซท์เหล่านี้
เวลาผ่านไปหลายปี Wirecard ก็ดึงดูดบริษัทและพ่อค้าทั้งหลายแหล่รวมไปถึง Aldi และ Lidl พวกแนวๆซุปเปอร์มาเก็ต รวมไปถึงสายการบินหลายสาย และในปี 2006 Wirecard ก็ได้กลายเป็นบริษัทที่มีบริการทางทำธุรกรรมทางด้านการชำระเงินอย่างเต็มรูปแบบ
ในปี 2018 นั้น Wirecard ได้เตะ Commerzbank (ธนาคารใหญ่ในเยอรมัน) ออกจาก DAX หรือดัชนีตลาดหุ้นหลักของเยอรมัน เลยทีเดียว ฟังดูแล้วน่าตื่นเต้นเสียนี่กระไร นักวิเคราะห์มีแต่คนเชียร์ให้ซื้อในเวลานั้น แต่มาเวลานี้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน มีแต่คนบอกว่าอย่าไปยุ่งกับหุ้นตัวนี้
บทเรียนที่เราน่าจะได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ก็คือ การรายงานผลประกอบการทางบัญชีแม้ว่าจะเป็นข้อมูลหลักที่นักวิเคราะห์หุ้นทั่วไปใช้กันทั่วโลก แต่มันก็เป็นเพียงปัจจัยหนึ่งของ quantitative analysis หรือการวิเคราะห์เชิงปริมาณเท่านั้น
มันยังมีอีกด้านที่เราต้องใส่ใจไม่แพ้กันก็คือ qualitative analysis หรือการวิเคราะห์เชิงคุณภาพ (ใครอยากรู้ว่ามันต่างกันยังไงก็เรียนเชิญต่อที่ลิงก์ข้างล่างได้)
https://www.hakwamroo.com/qualitative-vs-quantitative-analyses-in-stock/
เพื่อให้เราได้ข้อมูลที่ครบที่สุดและมากที่สุด ก่อนตัดสินใจที่จะลงทุนหรือไม่ลงทุนในหุ้นตัวนั้นๆ แม้สุดท้ายมันก็ไม่ได้มีอะไรรับประกันร้อยเปอร์เซ็นต์หรอกว่าเราจะคิดถูกเสมอ
แต่อย่างน้อยก็อาจจะดีกว่าฟังใครมาแล้วก็ซื้อๆตามเขาไปกันอ่ะเนาะ…เวลาเจ็บมาจะได้มาไม่ต้องไปโทษคนอื่นเขา
อ้างอิง:
https://www.economist.com/leaders/2020/06/24/wirecards-scandal-shows-the-benefits-of-short-sellers
https://en.wikipedia.org/wiki/Wirecard#/media/File:Wirecard_headquarters, Aschheim_(49556187461).jpg
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.