ควรทำอย่างไรเมื่อตลาดผันผวน?

ในที่สุดเวลาก็ดำเนินมาถึงสิ้นปี 2018 แล้วโดยที่ภาพรวมตลาดหุ้นไทยก็ติดลบประมาณ 10% ซึ่งก็เป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นทั่วโลก โดยที่ MSCI World Index (ดัชนีการลงทุนของบริษัททั่วโลก) ก็ติดลบจากปีที่แล้วเช่นกัน

บรรยากาศการลงทุนหลายเดือนที่ผ่านมาจนหมดปีถูกปกคลุมไปด้วยอารมณ์จีนกับอเมริกาทำสงครามการค้ากัน

มีการตั้งภาษีซึ่งกันและกัน ทิศทางดอกเบี้ยปีนี้ก็เป็นไปในทางขาขึ้น บ้านเรามีการกำหนดเงินดาวน์ที่สูงขึ้นในการผ่อนซื้อที่อยู่อาศัย ทำให้หุ้นของบริษัทที่พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ก้อลดฮวมากกว่า 20% จากช่วงก่อนที่จะมีการประกาศข้อกำหนดออกมา การส่งออกแม้จะดีขึ้นแต่ก็ชะลอตัวลง

การเลือกตั้งในไทยที่จะเกิดขึ้นในปีหน้าก็เป็นตัวแปรหนึ่งในความไม่แน่นอนสำหรับการลงทุนในบ้านเรา

การยกเลิกกองทุน LTF ที่จะนำมาลดหย่อนภาษีได้ในปีนี้เป็นปีสุดท้ายก็น่าสนใจว่าปีหน้าในเมื่อเหลือแต่ RMF แล้วเราจะเห็นสินค้ากองทุนรูปแบบใหม่ๆ มีกองทุนที่พ่วงกับการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นรึเปล่า ก็น่าสนใจติดตามดูกันยาวๆ

เมื่อบรรยากาศโดยรอบไม่ค่อยเอื้ออำนวย แล้วเราจะทำยังไงกันดี ก็ทำให้นึกถึงบทสัมภาษณ์นึงของปู่วอเรนที่เคยอ่านจากสำนักข่าว CNBC ว่าเราควรจะลงทุนกันอย่างไร ในช่วงไม่ปกติหรือช่วงที่มีความผันผวนเยอะแบบนี้ ก็ขออนุญาตนำมาแปลเช่นเคยครับ

วอเรน บัฟเฟต กล่าวไว้ว่า “ถ้าคุณลงทุนแบบนี้ คุณไม่น่าจะพลาด”

เมื่อซีอีโอของ Berkshire Hathaway อย่างปู่วอเรน บัฟเฟตตัดสินใจที่จะลงทุนในอะไรนั้น เขาให้ความสำคัญไปที่อย่างเดียวเท่านั้นก็คือ “ข้อเท็จจริง”

“คุณต้องสามารถที่จะจัดการและยอมรับสิ่งต่างๆให้ได้ภายใต้ทุกสถานการณ์” ปู่วอเรนบอกผู้ถือหุ้นไว้ในปี 2006

“และถ้าคุณสามารถจัดการกับสิ่งต่างๆได้ดีแล้ว คุณมีข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง คุณให้เหตุผลกับมันด้วยตัวของคุณเอง คุณให้ตลาดรับใช้คุณ ไม่ใช่มากำหนดคุณ คุณก็ไม่น่าจะพลาด”

ความเห็น และ อารมณ์ ไม่สามารถจะช่วยอะไรคุณได้ “การจะทำอะไรแหวกแนวจากตลาดก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าการไปทำตามหมู่มาก” บัตเฟตกล่าวไว้ แต่ในทางกลับกันแล้ว ปู่บอกไว้ให้เลือกวิธีที่ปฏิบัติได้จริงในการตัดสินใจลงทุนจะดีกว่า

อย่างแรก รวมรวบข้อเท็จจริงทั้งหมด ต่อไปก็ศึกษาว่าจะแยกแยะ วิเคราะห์ข้อเท็จจริงเหล่านั้นอย่างไร เพื่อที่จะหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องหรือสามารถนำไปใช้ได้ในการที่จะตัดสินใจ ในความหมายของปู่แล้วคือให้หาข้อมูลที่ “สำคัญ และ สามารถรู้ได้”

“ถ้าอะไรที่มันสำคัญ แต่เราไม่สามารถล่วงรู้ได้ ก็ให้ลืมมันซะ” ปู่กล่าวไว้ “ผมหมายความว่า มันอาจจะสำคัญว่าพรุ่งนี้ใครจะมาโยนระเบิดนิวเคลียร์ใส่เรา แต่เราก็ไม่สามารถที่จะล่วงรู้ได้”

ให้ความสำคัญกับตัวแปรที่คุณสามารถใช้ได้ เมื่อคุณสามารถตีกรอบข้อมูลคุณให้แคบลงได้แล้ว “เมื่อนั้น คุณก็สามารถจะตัดสินใจได้ว่า ข้อมูลที่คุณมีนั้นมีคุณค่าเพียงพอที่เมื่อนำไปเทียบกับราคาและข้อมูลด้านอื่นๆแล้วจะทำให้คุณลงมือทำอะไรได้หรือไม่” ปู่อธิบายไว้

ไม่ว่าคุณจะเลือกที่จะลงทุนในอะไรก็ตาม มันควรจะมาจากการศึกษาค้นคว้าด้วยตัวคุณเอง ไม่ใช่จากปฏิกิริยาที่คุณได้ยินหรือเห็นมาจากคนอื่นๆ หรือที่ปู่กล่าวไว้ว่า “สิ่งที่คนอื่นกำลังทำไม่ได้มีความหมายอะไรเลย”

นั่นคือเหตุผลว่าทำไม ปู่วอเรน ถึงแนะนำให้คุณทำการบ้านก่อนเสมอ และลงทุนในบริษัทที่เข็มแข้งและยั่งยืน แทนที่จะพยายามหาจังหวะเข้าออกในตลาด หรือมีปฏิกิริยากับความกังวลของคุณเอง ให้ใช้สมาธิกับข้อเท็จจริงเท่านั้น ไม่ใช่ว่าคุณกำลังรู้สึกยังไง

“อย่าไปนั่งเฝ้าตลาดใกล้ไปนัก” ปู่บอก CNBC ไว้ในปี 2016 ท่ามกลางความผันผวนอย่างรุนแรงในขณะนั้น “ถ้าพวกเขากำลังพยายามที่จะซื้อขายหุ้นและมีความกังวลเพียงแค่ราคามันลงไปเพียงนิดเดียว และคิดว่าพวกเขาควรจะขายมันเมื่อมันราคาขึ้น พวกเขาเหล่านั้นก็จะไม่ค่อยมีผลลัพธ์ที่ดีนัก”

เศรษฐีพันล้านร่วมอาชีพอย่าง ปู่เรย์ (Ray Dalio) ก็เห็นด้วยกับคำกล่าวนี้ แม้ว่ามันดูยั่วยวนมากที่จะขายมันออกไปเมื่อตลาดเริ่มปรับตัวลง แต่ว่าการยอมให้กับความกลัวของคุณเองก็ไม่ใช่วิธีการที่เหมาะสมเท่าไหร่นัก

“คุณไม่สามารถที่จะประสพความสำเร็จได้ด้วยวิธีนั้น” ปู่เรย์กล่าวไว้ที่ สถาบันการศึกษาด้านการเมือง Harvard Kennedy

“คุณต้องทำในสิ่งตรงกันข้าม” ก็คือ เมื่อคุณไม่กลัวอะไรคุณอาจจะอยากขายแทน แต่เมื่อคุณกลัวคุณอาจจะอยากซื้อมันแทน”

แม้ว่าตลาดจะดูวุ่นวายไม่แน่นอนอย่างมาก มันก็เป็นประโยชน์ที่จะเลิกสนใจนักลงทุนคนอื่น แต่ให้ใช้สมาธิกับสิ่งที่คุณรู้แทน

“คุณถูก เพราะข้อเท็จจริงและการให้เหตุผลของคุณถูก” ปู่บอกผู้ถือหุ้นไว้

“ดังนั้นแล้วสิ่งที่คุณทำเพียงอย่างเดียวก็คือพยายามให้แน่ใจว่าข้อเท็จจริงที่คุณมีนั้นถูกต้อง และมันก็ค่อนข้างที่จะง่ายที่จะทำในประเทศนี้ (อเมริกา) ผมหมายความว่า ข้อมูลนั้นมีอยู่ในแทบจะทุกรูปแบบ อินเตอเน็ตนั้นยิ่งทำให้มันง่ายเข้าไปใหญ่”

แหม่…อ่านแล้ว ก็เหมือนว่ามันอาจจะดูไม่ง่ายที่จะทำ แต่มันก็น่าจะทำได้ถ้าเราฝึกจิตใจทำ ยิ่งในช่วงนี้ยิ่งต้องอดทนและศึกษาหาข้อเท็จจริงตามคำแนะนำจากผู้รู้กันต่อไป เพื่อโอกาสที่จะต้องกลับมาอีกแน่ๆในอนาคตครับ เมื่อถึงวันนั้นเราก็จะได้มีพร้อมทั้งความรู้และข้อเท็จริงเพื่อที่จะลงทุนได้อย่างมีสติและเอาตัวรอดได้ในสถานการณ์ต่างๆครับ

ขอให้มีความสุขในช่วงปีใหม่ 2019 นี้ครับ

อ้างอิง:

https://www.cnbc.com/2018/06/01/warren-buffett-if-you-invest-this-way-you-cant-miss.html

blenlit

hakwamroo.com