เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีข่าวออกมาอย่างไม่หยุดยั้งเกี่ยวกับบริษัทที่ทำธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ของจีนนามว่า Evergrande ซึ่งเป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่มีหนี้สูงที่สุดในโลกถึง 300,000 ล้านเหรียญที่อาจจะผิดนัดไม่สามารถชำระหนี้เมื่อถึงกำหนดชำระหรือแม้แต่จะล่มละลายได้แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กันยาที่ผ่านมา บริษัทก็สามารถตกลงกับผู้ที่ถือพันธบัตรของบริษัทเกี่ยวกับการจ่ายเงินได้เมื่อจะถึงกำหนดชำระเงินสัปดาห์นี้ ทำให้ผ่อนปรนเรื่องบริษัทจะล้มละลายลงไปได้บ้าง
แต่จากเหตุการณ์นี้ก็ทำให้มีคำว่า ‘systemic risk’ กลับมาพูดถึงกันอีกครั้ง ซึ่งเราก็จะไปอ่านดูว่ามันคืออะไรเช่นเคย
Systemic Risk คือโอกาสความเป็นไปได้ที่เหตุการณ์ในระดับที่มีผลกระทบต่อบริษัทนั้นจะเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดการสั่นคลอนของเสถียรภาพของระบบทั้งอุตสาหกรรมหรือระบบเศรษฐกิจอย่างรุนแรง
Systemic Risk นี้นั้นเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดวิกฤติทางการเงินในปี 2008 บริษัทต่างๆที่จะได้รับการพิจารณาว่าเป็นบริษัทที่มีความเสี่ยงในระดับนี้นั้นจะเรียกว่าเป็นบริษัทที่มีขนาด “too big to fail” หรือบริษัทที่มีขนาดใหญ่เกินไปที่จะล้มละลายได้
สถาบันต่างๆเหล่านี้จะถือว่ามีขนาดที่ใหญ่เมื่อเทียบกับบริษัทอื่นๆภายในอุตสาหกรรมหรือเป็นบริษัทที่เป็นส่วนสำคัญของเศรษฐกิจในภาพรวม บริษัทที่มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทอื่นๆอย่างมากมายก็ถือว่าเป็นแหล่งเกิดของ systemic risk นี้ได้ อย่างไรก็ดี systemic risk กับ systematic risk นั้นไม่ได้มีความหมายเดียวกัน ซึ่ง systematic risk นั้นจะมีความสัมพันธ์กับระบบการเงินทั้งหมด
รัฐบาลกลางหรือ federal government นั้นจะใช้ systemic risk เป็นเหตุผลในการดำเนินการแซงแทรกเศรษฐกิจ (ซึ่งก็มักจะบ่อยครั้งเป็นเหตุผลที่ถูกต้อง) เหตุผลพื้นฐานในการแทรกแซงนั้นก็เป็นความเชื่อที่ว่ารัฐบาลนั้นจะสามารถช่วยผ่อนปรนหรือจำกัดผลกระทบต่อเนื่องให้มีน้อยที่สุดจากบริษัทที่จะส่งผลกระทบในวงกว้างนี้ด้วยการกำหนดกฏเกณฑ์และการกระทำที่มีเป้าหมายในการดำเนินการ
ถึงแม้ว่าบางบริษัทจะถือว่าใหญ่เกินไปที่จะปล่อยให้ล้ม พวกเขาก็ล้มได้อยู่ดีถ้ารัฐบาลไม่เข้ามาแทรกแซงในช่วงที่ยากลำบากของเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ดี บางครั้งรัฐบาลก็เลือกที่จะไม่แทรกแซงเนื่องจากว่าเศรษฐกิจในช่วงเวลานั้นได้ผ่านการขยายตัวมาแล้วและสภาพตลาดโดยทั่วไปอาจจะต้องการช่องหายใจบ้าง ลักษณะนี้จะเรียกว่าเป็นข้อยกเว้นมากกว่าที่จะมองว่าเป็นกฏ เนื่องมันอาจจะทำให้เศรษฐกิจสั่นคลอนมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องมาจากความอ่อนไหวของผู้บริโภค
อ้างอิง:
What are the systemic risks of an Evergrande collapse? | The Economist
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.