แต่ไหนแต่ไรมาแล้วแล้วตั้งแต่ตลาดหลักทรัพย์เกิดขึ้นมา ผู้คนก็เริ่มวางเดิมพันต่อมันแล้ว
จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นเทคนิคที่เก่าแก่ที่สุดในการซื้อขายหุ้นเท่าไรนัก แต่มันก็ไม่ไกลเกินจากนั้นมากนัก ในปี ค.ศ. 1602 บริษัท Dutch East India ได้เป็นบริษัทแรกที่ขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป ในปี ค.ศ. 1608 Isaac le Maire ผู้อยู่มายาวนานกับตำแหน่งผู้อำนวยการเก่า ได้รวมตัวกันเพื่อที่จะขายหุ้นทั้งๆที่ตัวเองยังไม่ได้เป็นเจ้าของเพื่อจัดส่งในอนาคต แล้วก็มีการกระจายข่าวลือเกี่ยวกับบริษัทเพื่อกดดันให้ราคาหุ้นลดลง และเมื่อถึงเวลาที่ต้องเคลียร์หุ้นมาถึงก็คือวันชำระเงิน กลุ่มสนธิสัญญา นั้นจึงสามารถซื้อหุ้นจากตลาดได้ในราคาต่ำกว่าที่พวกเขาได้ขายไว้แต่แรกและจบการทำธุรกรรมด้วยการทำกำไร บริษัท Dutch East India พอตระหนักรับรู้ถึงเรื่องนี้ก็ออกมาตอบโต้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่ดี พวกเขากล่าวว่า “มันเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ทำให้ผู้ลงทุนเสียเปรียบและโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อผู้มีส่วนได้เสียที่ถือหุ้นในบริษัทอย่างแม่ม่ายและเด็กกำพร้า” อะไรคือ Short-selling และมันถือเป็นเรื่องยากลำบากหรือดีในการซื้อขายหุ้น?
ในยุคปัจจุบันนี้ ผู้ที่เดิมพันด้วยการทำ Short-selling ซึ่งเป็นคนที่เดิมพันว่าราคาสินทรัพย์จะลดลงไม่ใช่ขึ้นสูงแบบปกติ ได้ถูกยับยั้งการกระทำที่รุนแรงขึ้นไป ตัวอย่างเช่นการกระจายข่าวลือของ Le Maire นั้นถือว่าเป็นการหลอกลวงปั่นตลาดที่ผิดกฎหมาย และข้อกำหนดใหม่ที่เข้ามาหลังจากวิกฤตการเงินในช่วง 2007-09 จะบังคับให้เขายืมหุ้นมาก่อนที่จะขายมัน เป็นต้น นักเทรดหุ้น short จึงเจาะจงไปยังบริษัทที่มีหุ้นที่พวกเขาเชื่อว่ามันมีมูลค่าสูงเกินไป ไม่ว่าจะเป็นเพราะตลาดโดยรวมเชื่อว่าเป็นแบบนั้น หรือหุ้นนั้นมีการทุจริตเกี่ยวข้องแบบจริงจัง คนที่ทำการ Short-selling ที่ประสบความสำเร็จก็บอกว่างานของพวกเขานั้นเหมือนกับนักสืบสวนข่าว ซึ่งมันต้องใช้เวลาหลายเดือนหรือหลายปีในการตรวจสอบเอกสารและพูดคุยกับแหล่งข้อมูลเพื่อค้นหาความผิดปกติที่คนอื่นมองข้ามไป
หลังจากที่พวกเขาได้วางเดิมพันไว้ก่อนแล้ว บางคนก็จะเผยแพร่ “รายงาน Short” โดยระบุข้อมูลหลักฐานของพวกเขาโดยหวังว่าผู้ลงทุนคนอื่นๆจะขายหุ้น และกระตุ้นแรงกดดันเพื่อลดราคาหุ้นตามเป้าหมายราคาที่ตั้งไว้ ตัวอย่างเช่น Hindenburg Research เมื่อวันที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมานี้เองได้กล่าวหา Adani Group ซึ่งเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ของอินเดียที่ถูกดำเนินการโดยหนึ่งในเจ้าของที่รวยที่สุดในโลกว่ามีการปั่นหุ้นและฉ้อโกง (Adani Group ปฏิเสธการกล่าวหาโดยออกมาตอบโต้ด้วยเอกสารปฏิเสธมากถึง 413 หน้าซึ่งเรียกรายงานของ Hindenburg ว่า “โกหกทั้งหมด”) แต่ถึงกระนั้น ภายในไม่กี่วันกลุ่มบริษัทของ Adani Group ได้เห็นมูลค่าตลาดลดลงมากกว่า 100,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และบริษัทหนึ่งในกลุ่มได้ถูกบังคับให้ยกเลิกการขายหุ้นและคืนเงิน 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯให้กับนักลงทุน
มันก็มีการโต้เถียงว่าผู้ที่ใช้เวลาของพวกเขาในการค้นหาความผิดปกติของบริษัทเป็นความผิดหรือไม่ แน่นอนว่า The Economist เชื่อว่านักขาย short เป็นสิ่งดีสำหรับตลาด นัก Short มีความพยายามที่จะค้นหาการทุจริตของโลกธุรกิจบางส่วนที่ใหญ่ที่สุด การกระทำผิดของ Enron บริษัทพลังงานในรัฐเท็กซัสที่พังทลายในปี 2001 เป็นหนึ่งในนั้น การกระทำผิดที่ Wirecard บริษัท fintech จากเยอรมันที่ล้มลงในปี 2020 ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่าง แต่นัก Short เองมักจะไม่ได้รับความนิยมเหมือนกับ le Maire
Andrew Left นัก Short ที่กล่าวออกมาในปี 2021 ว่าเขาจะไม่เผยแพร่รายงาน short อีกต่อไปหลังจากใช้เวลา 20 ปีในการทำเช่นนั้น เขาบอกว่านักเทรดรายย่อยได้เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของเขาบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและมีการส่งข้อความข่มขู่ลูกๆของเขา ผู้จัดการกองทุน Hedge Fund คนนึงกล่าวว่าเมื่อคุณเผยแพร่งานวิจัยที่ชื่นชมเกี่ยวกับบริษัท “โดยทั่วไปคนจะรักคุณเพราะโดยทั่วไปคนจะซื้อขายแบบ Long แต่ทุกคนเกลียดคุณเมื่อคุณเป็นนัก Short”
การขายโดยไม่มีหุ้นในมือก่อน (Short-selling) เป็นธุรกิจที่ยากที่จะทำกำไร ผลตอบแทนจะมีขีดจำกัดเพราะราคาหุ้นไม่สามารถลดลงได้ต่ำกว่าศูนย์ ในขณะที่มันสามารถเพิ่มขึ้นได้ไม่จำกัด ทำให้ความเสี่ยงที่จะขาดทุนไม่มีขีดจำกัด ในขณะเดียวกันกองทุนที่ทำการ short มักจะมีเงินในการดูแลสั่งซื้อที่น้อยกว่ากองทุนที่ซื้อหุ้นรอราคาขึ้นอย่างเดียว (long-only) ซึ่งนั่นจะจะจำกัดขอบเขตในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม แต่สำหรับคนที่ทำการขาย short แล้วถ้าลองไปถามพวกเขา ก็จะบอกว่าวิธีการทำกำไรอย่างง่ายๆ ไม่ใช่สิ่งที่สนุกสนานสำหรับพวกเขา เขาทำเพื่อความตื่นเต้นในการวิ่งไล่ Short
อ้างอิง:
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.