เนื่องจากช่วงหลายเดือนมานี้ก็เป็นช่วงที่มีประเด็นต่างๆที่มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนและอเมริกาที่เริ่มขึ้นไปแล้ว การพลิคล็อคของกำไรของบริษัท Tencent ที่ผิดจากที่นักลงทุนและนักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้อย่างมาก ส่งผลส่วนนึงให้ SSE index หรือ Shanghai Stock Exchange index ลดต่ำลงไปประมาณ 20% แล้วจากช่วงสิ้นปีที่ผ่านมา
หรือเร็วๆนี้ก็คือข้อพิพาทระหว่างตุรกีกับอเมริกาที่ส่งผลทำให้ค่าเงิน Lira ของตุรกีที่เศรษฐกิจย่ำแย่อยู่แล้วก็ลงไปอ่อนค่าจนประมาณ 40% เมื่อเทียบกับช่วงต้นปี และแม้ว่าจะดีดตัวขึ้นมาบ้าง แต่ก็มีโอกาสทำให้เกิดวิกฤตการเงินได้ ยังดีที่การ์ต้าเสนอตัวที่จะช่วยเหลือที่ว่าจะลงทุนถึง 15,000 ล้านเหรียญในตุรกี
จากเหตุการณ์ไม่แน่ไม่นอนหลายๆอย่าง ทำให้ผู้เขียนนึกได้ว่าเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมาทาง The Economist Intelligence Unit หรือ EIU (หน่วยงานนึงของนิตยสารรายสัปดาห์ด้านเศรษฐกิจและการเมืองชั้นนำที่ทำการศึกษาและเก็บข้อมูลต่างๆทั่วโลก) ได้ทำการทำนายถึงความเสี่ยง 10 อันดับที่อาจจะมีผลต่อเศรษฐกิจโลกในปีนี้ไว้ จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟังว่าเขาพูดอะไรไว้กันบ้าง
เรื่องกังวลอันดับ 1 ความผันผวนของตลาดหุ้นหลักๆทั่วโลกจะส่งผลให้เกิดการสั่นคลอนของเศรษฐกิจโลก
การที่เศรษฐกิจโลกกำลังดำเนินไปเข้าสู่ระยะใหม่ๆซึ่งธนาคารกลางของแต่ละประเทศก็เริ่มที่จะผ่อนผันนโยบายทางการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศตัวเองทำให้ความไม่แน่นอนก็จะเพิ่มมากขึ้นไปด้วย
เรื่องกังวลอันดับ 2 เศรษฐกิจทั่วโลกจะตกลงเนื่องจากอเมริกามีนโยบายกีดกันทางการค้า (protectionist policy) มากขึ้น
การเพิ่มขึ้นของนโยบายกีดกันทางการค้าที่มีมากขึ้นจากทางจีนและอเมริกาย่อมมีผลกระทบที่ไปไกลกว่าสองประเทศนี้แน่นอนและจะกระทบราคาและซัพพลายที่มีอยู่จากบริษัทต่างๆจากประเทศอื่นๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบให้การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกอาจจะถูกยับยั้งแน่นอนเนื่องจากการลงทุนและการใช้จ่ายของผู้บริโภคก็จะลดลง
เรื่องกังวัลอันดับ 3 ข้อพิพาทเรื่องอาณาเขตในทะเลจีนใต้จะส่งผลต่อความไม่เป็นมิตรในประเทศรอบข้างมากขึ้น
หากมีการกระทบกระทั่งทางทหารเกิดขึ้นย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างจัง การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจย่อมมีปัญหา เครือข่ายซัพพลายในระดับภูมิภาครวมไปถึงเส้นทางเดินเรือทางทะเลย่อมได้รับผลกระทบ
เรื่องกังวลอันดับ 4 การเจริญเติบโตของเศรษฐกิจโลกพุ่งทะลุเกิน 4%
ความเข้มแข็งในการเจริญเติบโตเฉพาะตลาดใหญ่ๆนั้นอาจหมายความได้ว่าภาพรวมของตลาดโลกนั้นอาจได้รับผลกระทบ อย่างไรก็ดี ข้อดีของการเร่งการเจริญเติบโตในภาพรวมไม่เพียงแต่จะเป็นที่ยินดีกับประเทศอื่นๆที่เติบโตช้า แต่จะเป็นการช่วยจีนในการปรับสมดุลในทางเศรษฐกิจในระยะยาวอีกด้วย ช่วยลดความรุนแรงในกระบวนการ ความต้องการสินค้าโลกที่ดีขึ้นจะช่วยสนับสนุนราคาสินค้าและพยุงประเทศอื่นๆที่ส่งออกสินค้าอย่างลาตินอเมริกา ตะวันออกกลาง และประเทศแถบทางใต้ของอาฟริกาด้วย
เรื่องกังวลอันดับ 5 การโจมตีทางไซเบอร์อาจจะทำให้กิจกรรมต่างๆของบริษัทหรือรัฐบาลเป็นง่อยได้
หากกิจกรรมของรัฐบาลถูกจำกัดเนื่องมาจากการโจมตี หรือโครงสร้างพื้นฐานต่างๆถูกทำลาย ผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจนั้นย่อมรุนแรงกว่า แต่หากมองในด้านดี จะเห็นว่าการโจมตีที่ผ่านๆมานั้นสามารถป้องกันหรือผ่อนหนักเป็นเบาจากเทคนิคในการป้องกันขั้นพื้นฐานได้ อย่างไรก็ดี หากการโจมตีที่ผ่านมาเหล่านั้นเป็นเพียงการทดสอบลองเชิงดูนั้น สิ่งที่แย่กว่าย่อมตามมาได้
และนี่ก็เป็น 5 อันดับหลักที่ทาง EIU ได้ทำการทำนายไว้เมื่อช่วงต้นปี ซึ่งบางข้อก็ดูจะค่อนข้างตรงเลยทีเดียว ท่านใดที่สนใจฉบับเต็ม 25 หน้าก็สามารถเข้าไปชมได้ตามที่อยู่ด้านล่างได้เลยครับ
และเช่นเคย เมื่อตลาดมีความผันผวนมีมาก โอกาสสูญเสียจากการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงก็มากขึ้นไปด้วย แต่โอกาสที่การลงทุนที่ดีและเหมาะสมบางอย่างจะเปิดกว้างขึ้นจากความไม่แน่นอนก็มีเช่นกัน ฉะนั้นขอให้ลงทุนกันอย่างระมัดระวังอย่างตลอดเวลาและสม่ำเสมอครับ อย่างที่ปู่วอเรนย้ำแล้วย้ำอีกไม่เคยเบื่อ ว่าให้เข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุน บริษัทมีพื้นฐานแข็งแกร่ง มีอนาคต ธุรกิจมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน มีกำไรสม่ำเสมอในอดีตที่ผ่านมา และราคามีความเหมาะสมครับ
ช่วงนี้ฝนตกประจำ มีโอกาสก็พักผ่อน รักษาสุขภาพกันด้วยครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก: http://pages.eiu.com/rs/753-RIQ-438/images/Top_10_risks_to_the_global_economy.pdf?mkt_tok=eyJpIjoiTkdGa1lXVTROMlZsTW1FNCIsInQiOiI3XC9VSnkxdUFIYklHU0ZtWFJQK1JkSk03eXdBSWhLRVl3bGV0dk1IMEZzUHloSmJrakk0cnhISm5VZWYrNDYxYlp3ZW1tK3RFSTNWY1FQOVhJd1RHU3RFMVBzVE9ZeDdQXC81aHBQaE1sbE5iTWZsTGN3eW9yREZFS2VIcnNGNmkzIn0%3D
blenlit
Hakwamroo.com
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.