เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พี่มาร์ค ซัคเคอร์เบิก แห่งเฟซบุค ก็ได้ประกาศว่าจะสร้างสกุลเงินขึ้นมาใหม่ที่เรียกว่า “Libra” หรือ “ไลบลา” ในอีก 1 ปีข้างหน้า หรือปี 2020
อย่างที่เราเคยศึกษากันไปบ้างว่าเงินคืออะไร และต้องมีคุณสมบัติอะไรบ้าง ก็ทบทวนความจำกันแบบเร็วๆ เงิน ต้องมีคุณสมบัติอยู่ 3 อย่างคือ 1. unit of account (สามารถนับได้) 2. Store of value (มีมูลค่าที่ไม่เปลี่ยนแปลง) และ 3. Medium of exchange (สามารถเป็นตัวกลางการแลกเปลี่ยนทางธุรกรรมต่างๆได้)
และเราก็เคยศึกษากันต่ออีกว่า Cryptocurrency อย่างเช่น Bitcoin เนี่ยขาดคุณสมบัติ แน่ๆละก็เรื่อง store of value เนื่องจากมีราคาที่เหวี่ยงขึ้นลงอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถจะคาดเดาอะไรได้เลย ประกอบกับเราจะเอา Bitcoin ไปใช้ได้จริงๆก็มีไม่กี่ที่เท่านั้น
ทีนี้คำถามคือแล้วอะไรหละทำให้ Libra นี่มีโอกาสดีกว่า crytocurrencies ตัวอื่นๆที่อาจจะเปลี่ยนแปลงวิถีการโอนเงินการจ่ายเงินระหว่างประเทศทั่วโลก?
จากบทความในนิตยสาร The Economist ฉบับ 22 มิถุนายน นั้นบอกไว้ว่า Libra จะมี 28 บริษัทเริ่มต้น (จากที่คาดหวัง 100) ที่จะริเริ่มในการก่อตั้งสกุลเงินนี้ เช่น VISA, Spotify, UBER และอื่นๆ
และสุกลเงินนี้ก็จะอ้างอิงมูลค่าจากตระกร้าของสกุลเงินหลักอื่นๆด้วย (basket of major currencies) เพื่อที่มูลค่าของสกุลเงินจะได้เปลี่ยนแปลงตามที่เกิดขึ้นและเป็นไปตามกลไลของตลาดจริงๆ (ไม่ใช่เกิดขึ้นจากการเก็งกำไรอย่างสุดโต่ง หรือมูลค่าของสกุลเงินไม่มีอะไรรองรับ และขึ้นลงอย่างหวือหวาอย่าง cryptocurency อื่นๆ)
สิ่งที่ผู้บริโภคอย่างเราๆจะได้ประโยชน์อะไรบ้าง ก็น่าจะเป็นการโอนเงินรับเงินส่งเงินแจกเงินให้กับญาติพี่น้องไม่ว่าจะที่ไหนในโลกด้วยต้นทุนที่แทบจะไม่มีเลยและแค่เปิดแอพก็โอนได้เลย (ลองนึกภาพเวลาเราต้องเดินทางไปห้างต่างๆเพื่อไปที่ Western Union เพื่อโอนเงินให้กับคนอื่นๆที่อยู่ต่างประเทศ และนึกถึงค่าธรรมเนียมที่เราต้องจ่ายแถวๆ 4-5%)
ร้านค้าต่างๆก็อาจจะรับการจ่ายเงินผ่าน Libra มากขึ้นเนื่องจากต้นทุนการแบกรับค่าธรรมเนียมที่ต่ำลง (นึกถึงเวลารูดบัตรแล้วร้านค้าจะเก็บเรา 2% ค่าธรรมเนียม)
ผู้ที่มีรายได้น้อย มีโอกาสเข้าถึงเงินยาก เนื่องจากไม่มีเครดิต หรือต้นทุนค่าธรรมเนียมสูง ก็จะสามารถเข้าถึงเงินได้ง่ายขึ้นแค่ผ่านแอพ อาจมีการกู้เงินได้ในต้นทุนที่ต่ำมากๆ
อย่างไรก็ดีกฏหมายและกฏเกณฑ์ต่างๆก็ยังต้องตามมาคุมและไม่ได้จะทางโล่งสวยหรูไปซะหมด แต่ที่แน่ๆไอเดียที่ว่า Global Digital Currency หรือสกุลเงินดิจิตอลสำหรับทุกคนทั่วโลก
ก็น่าสนใจทีเดียวว่ามันจะสามารถเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตเราๆท่านๆกันไปในรูปแบบไหนอีก ด้วยกระเป๋าตังหลายรูปแบบจนงงไปหมดในตอนนี้ว่าจะใช้อะไรดี อย่าง Rabbit Line Pay บ้าง True Wallet บ้าง จ่ายผ่าน QR Code บ้าง หรือแอพ Wallet เฉพาะอย่าง เช่น Villa Market, Starbucks เต็มไปหมด และยังไม่รวมถึงแอพธนาคารที่จ่ายเงินโอนเงินจะแสนง่ายอย่างทุกวันนี้
รอกันอีกแค่ปีเดียวเราก็อาจจะเปลี่ยนจากเก็บเงินในธนาคารเป็นเก็บเงินในรูปแบบ Libra กันก็ได้เนาะ แต่ทุกอย่างก็มีความเสี่ยง หาก Libra ล่ม ณ ตอนนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะมีใครรับประกันเงินเราได้แค่ไหน เพราะยังมีอีกหลายๆปัจจัยที่ยังไม่ได้ข้อสรุป เช่น จะผูกกับตระกร้าสกุลเงินสกุลไหนบอก กฏเกณฑ์ที่ออกมาจะเป็นอย่างไร บริษัทไหนจะรับรองบ้าง เงินจะสามารถซื้ออะไรได้บ้าง ต้องผ่านแอพไหนบ้าง อะไรพวกนี้ก็ต้องค่อยๆศึกษากันไปครับ
อ้างอิง:
https://www.economist.com/leaders/2019/06/22/facebook-wants-to-create-a-global-currency
https://www.economist.com/business/2019/06/20/facebook-wants-to-create-a-worldwide-digital-currency
blenlit
hakwamroo.com
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.