เราเคยหาความรู้เกี่ยวกับ Yield Curve และ Inverted Yield Curve กันไปแล้ว วันนี้เราจะมาหาความรู้ต่อกันในเรื่อง Equity Risk Premium ว่ามันคืออะไร ก่อนจะไปถึงตรงนั้นเราต้องเข้าใจคำว่า Risk Premium กันก่อนแหละเนาะ
เคยสงสัยกันมั้ยครับว่าเวลาธนาคารพาณิชย์ต่างๆถึงให้ดอกเบี้ยเงินฝากเราต่ำกันจัง (แถวๆ 0.5% ถึง 1.5% แล้วแต่ประเภทของเงินฝาก) อย่างที่เรารู้ๆกัน ต้นทุนเงินฝากของธนาคารนั้นก็คือดอกเบี้ยที่จ่ายให้กับเรา แต่ในทางกลับกันเวลาที่เราไปกู้ธนาคารเนี่ยทำไมดอกเบี้ยเงินกู้มันถึงได้แตกต่างกับต้นทุนที่ธนาคารต้องจ่ายมากมายขนาดนั้น สูงถึง 6-8% กันเลยทีเดียว ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกหรือได้รับดอกเบี้ยเงินกู้แบบไหนเช่นกัน
แล้วเขาเอาอะไรมาเป็นตัวคิดตัววัดหละว่าจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้กับเราไว้ที่เท่าไหร่ดี? เครื่องมืออันหนึ่งก็คือ risk premium นี่แหละครับ
Risk Premium ตามความหมายแบบบ้านๆก็คือ ผลตอบแทนจากค่าความเสี่ยงที่สูงขึ้นของธนาคารจากการที่ต้องปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับเราๆนี่แหละครับ ว่าง่ายๆก็คือธนาคารจะปล่อยเงินกู้ให้เราเนี่ยเขาก็ต้องมีความเสี่ยงและเขาก็ต้องการที่จะได้รับเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยในจำนวนที่คุ้มค่าที่จะเสี่ยงให้เรากู้กันนี่แหละครับ (เหมือนเวลาเราจะให้เงินเพื่อนยืม เราก็อาจจะต้องคิดกันนิดนึงนี่แหละครับว่าเราจะได้เงินคืนมั้ย แม้เราอาจจะไม่ได้คิดดอกเบี้ยเพื่อนเลยก็ตาม)
ยิ่งผู้กู้มีความเสี่ยงสูงที่ธนาคารอาจจะไม่ได้รับเงินคืน ค่า risk premium ก็อาจจะสูงตามไปด้วย (เช่น เครดิตไม่ดี ประวัติการชำระเงินจากการกู้กับรายอื่นๆหรือในอดีตไม่ดี หรือไม่มีอะไรค้ำประกัน อะไรทำนองนี้)
ทีนี้ Equity Risk Premium ก็จะคล้ายๆกัน แต่จะพูดถึงนักลงทุนที่ลงทุนในตลาดหุ้นเสียมากกว่า ซึ่งก็จะหมายถึงผลตอบแทนส่วนเกินที่นักลงทุนคาดหวังว่าจะได้รับเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบ risk-free rate หรือการลงทุนที่ไร้ความเสี่ยงอย่างเช่น พันธบัตรรัฐบาล (government bond) – จริงๆแล้ว แม้แต่ government bond ก็มีความเสี่ยง เพียงแต่ว่าความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นก็คือรัฐบาลต้องล้มละลายและไม่มีเงินชำระคือเมื่อถึงกำหนดชำระ ซึ่งในมุมมองการลงทุนเขาก็มองว่าความเสี่ยงต่ำมากที่รัฐบาลจะล้มอ่ะเนาะ (อย่างเช่น ตอนนี้อาร์เจนตินาก็จะเกิด default – ไม่สามารถชำระเงินเมื่อถึงกำหนด หรือไม่ ณ ตอนนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไป)
ดังนั้นผลตอบแทนส่วนเกินนี้ (excess return) ก็เป็นที่คาดหวังจากนักลงทุนว่ามันจะช่วยชดเชยกับความเสี่ยงที่จะได้รับจากการลงทุนในตลาดหุ้นที่มีความเสี่ยงสูงขึ้นมากกว่าตลาดอื่น (เช่น ตลาดพันธบัตรรัฐบาล) โดยระดับหรือขนาดของความเสี่ยงที่ส่งผลต่อ equity risk premium นั้น ก็จะขึ้นอยู่กับความเสี่ยงที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา
ว่าสั้นๆก็คือยิ่งความเสี่ยงสูง equity risk premium ก็จะสูงตามไปด้วย ดังที่เราได้ยินกันเสมอๆว่า “การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน”
อ้างอิง:
https://www.bot.or.th/thai/statistics/_layouts/application/interest_rate/in_rate.aspx
https://www.gsb.or.th/services/RateLoan.aspx
https://www.investopedia.com/terms/e/equityriskpremium.asp
blenlit
hakwamroo.com
Leave a Reply
You must be logged in to post a comment.