พยายามเข้าใจ การลงทุน การเงิน และระบบเศรษฐกิจ

Finance

วิธีการคำนวณมูลค่าบริษัททางบัญชี (How to calculate Book Value)

https://teleread.com/have-we-forgotten-the-value-of-a-book/index.html

อาจจะดูเหมือนว่านานมาแล้ว แต่เมื่อสัก 6 สัปดาห์ที่แล้ว เราได้คุยกันถึงว่ามูลค่าของบริษัทหรือหุ้นทางบัญชีคืออะไร ในสัปดาห์นี้เราจะมาดูต่อว่าเราจะสามารถคำนวณมูลค่าบริษัททางบัญชีได้อย่างไร

ในการคำนวณมูลค่าบริษัททางบัญชีนั้น เราสมมุติว่าทรัพย์สินของบริษัทนั้นมีมูลค่าตามตัวเลขที่แสดงในงบดุล (balance sheet) จริงๆแล้ว จะว่าไป มูลค่าบริษัททางบัญชีนั้นก็มีค่าตามตัวเลขที่แสดงให้เห็นตามบัญชี หรือตามงบดุลนั่นแหละ

เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น เราลองมายกตัวอย่างกันดังนี้

ในกรณีนี้ หุ้นส่วนทุนหรือ capital stock นั้นมาจากจำนวนหุ้นทั้งหมด 15,000 หุ้นคูณด้วยมูลค่าหุ้นที่ราคาพาร์คือ 100 บาทของหุ้นสามัญ (common stock) ทั่วไป

ในการคำนวณมูลค่าหุ้นทางบัญชี (book value) ของหุ้นสามัญตัวนี้ เราก็เพิ่มส่วนเกินทุน (Surplus) 100,000 เข้าไปกับหุ้นส่วนทุน 1,500,000 เราก็จะได้ 1,600,000

ทีนี้ให้เราหันไปดูด้านทรัพย์สินของงบดุลตรงรายการทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนหรือจับต้องไม่ได้ (intangibles) ก็คือ GoodWill (ค่าความนิยม: มูลค่าส่วนเกินที่คนซื้อยอมจ่ายราคาที่แพงกว่ามูลค่าสุทธิของราคาตลาดของบริษัทนั้น) จะเห็นว่ามีมูลค่าอยู่ที่ 300,000

ให้นำยอด 300,000 นี้หักออกจาก 1,600,000 ก็จะเหลือมูลค่า 1,300,000 ตาม 15,000 หุ้นสามัญที่มีอยู่ ซึ่งตัวเลข 1,300,000 นี้ก็คือ net tangible asset หรือทรัพย์สินที่มีตัวตนสุทธินั่นเอง และเมื่อเรานำ 1,300,000 หารด้วย 15,000 เราก็จะได้มูลค่าหุ้นทางบัญชี “สุทธิ” ที่ 86.67 บาทต่อหุ้น

อย่างไรก็ดี หากย้อนไปนิดนึง โดยก่อนที่เราจะหักมูลค่าทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนก่อนการคำนวณนั้น เราก็จะได้ 1,600,000 หารด้วย 15,000 เราก็จะได้มูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ 106.67 ซึ่งจะเห็นได้ว่า 106.67 เทียบกับ 86.67 แล้วจะมีมูลค่าหุ้นที่ต่างกันมาก

ดังนั้นปกติโดยทั่วไปแล้วเวลาที่เราได้ยินถึงคำว่ามูลค่าทางบัญชีั้น ก็คือจะเป็นมูลค่าที่ยังไม่หักมูลค่าของทรัพย์สินที่ไม่มีตัวตนซะมากกว่า จะเห็นได้ว่ามูลค่าหุ้นทางบัญชีนั้นมักจะบอกเพียงว่าบริษัทได้มีการใส่เงินทุนหรือลงทุนไปที่มูลค่าเท่าไหร่มากกว่าที่จะแสดงถึงมูลค่าหุ้นที่เป็นอยู่จริงในตอนนั้นๆ และยังสามารถดิ้นได้อีกต่างหาก (รวมหรือไม่รวมทรัพย์สินที่มีตัวตนหรือไม่มีตัวตน)

จากบทความในนิตรสาร The Economist March 23rd 2019 “Why book value has lost its meaning” ก็ได้พูดถึงการตีมูลค่าของบริษัทที่ยากขึ้นในยุคดิจิตอลยุคนี้ เพราะการมีรายได้ของบริษัทต่างๆที่มาจาก intangible มากขึ้นเพราะจับต้องไม่ได้

หากเราดูกราฟด้านล่างจะเห็นด้วยซ้ำว่า McDonald’s นั้นมีมูลค่าหุ้นทางบัญชีที่ติดลบด้วยซ้ำไป แต่ดูรอบตัวเราหรือรอบโลกสิครับ แมคโดนัลด์ขึ้นอย่างกะดอกเห็ด แถมราคาหุ้นต่อมูลค่าหุ้นทางบัญชี (price-to-book value ratios) ก็วิ่งไปไกลซะหลายเท่าจนเกินกว่าจะบอกได้ว่าบริษัทหรือธุรกิจนั้นๆกำลังไปได้ดีแค่ไหน

เมื่อก่อนเราอาจจะมองหา P/B ratio ที่ต่ำๆ แต่ในสมัยนี้มันก็ไม่ได้บอกอะไรมากนักแล้ว ซึ่งมูลค่าของบริษัทในยุคนี้จะขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำกำไรของบริษัทอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนว่าจะยืนยาวแค่ไหนและจะสามารถเจริญเติบโตไปได้ถึงเมื่อไหร่กันมากกว่า

อ้างอิง:

https://www.investopedia.com/terms/b/bookvalue.asp

https://www.economist.com/finance-and-economics/2019/03/23/why-book-value-has-lost-its-meaning

https://teleread.com/have-we-forgotten-the-value-of-a-book/index.html

blenlit

hakwamroo.com

Leave a Reply

%d bloggers like this: