การลงทุน (investment) ต่างกับการเก็งกำไร (speculation) อย่างไร?

ผู้เขียนเชื่อว่าคนเราส่วนใหญ่ต้องการที่จะสร้างความมั่นคงในชีวิตให้กับตัวเองกันทั้งนั้น ว่าสั้นๆก็คืออยากรวยนั่นแหละ และหลายๆคนก็คงอยากจะเริ่มลงทุนเพื่อให้สิ่งที่ตัวเองมีอยู่หรือหามาด้วยความยากลำบากนั้นงอกเงยเพิ่มขึ้นให้ได้มากที่สุด อย่างไรก็ดีการลงทุนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย (ไม่งั้นทุกคนก็คงจะทำได้ง่ายและร่ำรวยกันไปหมดแล้ว) ต้องอาศัยการ
ศึกษาหาความรู้ การอ่าน และมีระเบียบวินัยในตนเองอย่างต่อเนื่อง ผู้เขียนจึงมีความคิดอยากชวนผู้อ่านมาเรียนรู้เรื่องการลงทุนตั้งแต่แรกเริ่มไปพร้อมๆกัน โดยสิ่งนึงที่ผู้เขียนอยากจะกล่าวไว้ตั้งแต่เริ่มต้นเลยเพื่อให้ผู้อ่านได้มีมุมมองและความเข้าใจที่เป็นไปในแนวทางเดียวกันในการลงทุน ก็คือการที่นักลงทุนควรจะเข้าใจก่อนว่าการลงทุน (investment) กับ การเก็งกำไร (speculation) นั้นมีความหมายแตกต่างกันอย่างไร

ผู้เขียนขออ้างอิงจากหนังสือ “The Intelligent Investor” ซึ่งเขียนโดยผู้ที่ได้รับชื่อว่าเป็นต้นแบบแห่งการลงทุนแบบเน้นคุณค่า (value) นามว่าเบนจามิน เกรแฮม ในหนังสือได้ให้คำจำกัดความไว้ว่า “การลงทุนคือการวิเคราะห์อย่างรอบคอบและครอบคลุมโดยที่การลงทุนนั้นๆสามารถที่จะรักษาต้นทุนไว้ได้ สามารถทำผลตอบแทนได้อย่างเพียงพอและเหมาะสมกับการลงทุนนั้นๆ การดำเนินการใดๆที่ไม่เป็นไปตามคุณลักษะเหล่านี้ถือว่าเป็นการเก็งกำไรทั้งสิ้น”

หากเรามาวิเคราะห์คำกล่าวนี้กันทีละส่วนจะเห็นได้ว่าการลงทุนใดๆต้องมีการวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วนในหลายๆด้าน มีการใช้เวลาไปในการศึกษาหาข้อมูลและพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเสี่ยงจากการลงทุนอย่างเหมาะสมเพื่อที่จะรักษาเงินต้นไว้และมีโอกาสได้รับผลตอบแทนอย่างสมควร

เห็นอย่างนี้แล้วหากลองใช้เวลาสักนิดนึกคิดดูว่าหุ้นหรือการลงทุนใดๆที่เราได้ยินมาจากตามร้านอาหาร ตามข่าว ตามหนังสือพิมพ์ ตามวงสนทนาต่างๆ หรือแม้จากคนรอบตัวแต่เราไม่เคยได้ยินมาก่อนหรือไม่เคยศึกษาหาความรู้เองเลยก็เข้าข่ายการเก็งกำไรเช่นกัน หลายๆคนมีความสับสนในความหมายนี้ว่าใครก็ตามที่มีเงินซื้อหุ้นจะเรียกตัวเองว่านักลงทุนได้ทันที แต่หากเรามองไปรอบตัวจะเห็นได้ว่ามีหลายๆคนที่ซื้อหุ้นเพียงเพราะมีคนแนะนำมาได้ยินมาหรือแม้แต่ฝันมาซะงั้น ซึ่งพอได้ยินได้ฟังแบบนี้แล้วก็ทำให้รู้สึกว่าไม่น่าเข้าไปลงทุนเลยทีเดียว และหลายๆคนก็เกิดอาการ “ติดดอย” เพราะการ “ลงทุน” แบบนั้นนั่นแหละ การขึ้นลงของราคาหุ้นนั้นหลายๆครั้งก็เป็นการปรับตัวไปตามอารมณ์ตามความรู้สึกของตลาดที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับพื้นฐานหรือมูลค่าของบริษัทของหุ้นตัวนั้นเลย

เวลาเราเห็นใครทำกำไรในเวลาอันรวดเร็วก็ทำให้รู้สึกโอนเอียงหรือตื่นเต้นไปด้วย สิ่งเหล่านี้แม้อาจจะดูหวือหวา “รวยเร็ว” แต่ในระยะยาวแล้วหากยังทำแบบนี้ไปเรื่อยๆโอกาสที่จะสูญเสียเงินต้นที่คนทั่วไปอย่างเราๆหากันมาอย่างยากลำบากก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้เขียนเคยขับรถเร็วไปยังต่างจังหวัดเพียงเพราะความสนุกสนานในวัยที่ยังความคิดความอ่านไม่ดีเท่าตอนนี้ (แน่นอนโดนใบสั่งสิ!) หากยังขับรถแบบนั้นอยู่เชื่อว่าวันนี้ก็คงไม่ได้รอดมานั่งเขียนบทความนี้ในวันนี้ฉะนั้นแล้วการลงทุนก็ควรมองกันยาวๆครับ อย่ามองสั้นๆเพียงเพราะความตื่นเต้น ความโลภอยากรวยเร็ว หรือเพียงเพราะได้ยินใครบอกมาว่าดี

ดั้งนั้นแล้วควรแยกการลงทุนกับการเก็งกำไรให้ออกจากกัน อ้างอิงจากจดหมายถึงผู้ถือหุ้นในปี 1979 ของนักลงทุนระดับโลกอย่างวอเรน บัฟเฟต(warren buffett) การลงทุนควรจะลงทุนในบริษัทที่มีธุรกิจมั่นคง สามารถเข้าใจได้ ธุรกิจบริษัทมีอนาคตในระยะยาว สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง มีผู้บริหารที่สามารถจัดการกับธุรกิจได้ดีแม้ในช่วงยากลำบากและที่สำคัญ ราคาต้องมีความเหมาะสม.

blenlit

Hakwamroo.com