พยายามเข้าใจ การลงทุน การเงิน และระบบเศรษฐกิจ

Business

จะมีใครกอบกู้ Boeing ที่กำลังดิ่งลงพื้นมั้ย?

ผู้ผลิตเครื่องบินสัญชาติอเมริกันรายนี้คงต้องใช้นักบินขั้นเทพแล้วแหละ

เครื่องบินโบอิ้งอยู่ในขั้นตอนต่าง ๆ ของการบํารุงรักษานอกโรงงานโบอิ้งเรนตันในเรนตัน
ภาพจาก The Economist

มีเพียงไม่กี่บริษัทที่เริ่มต้นปี 2024 นี้ได้แย่กว่า Boeing  ในเดือนมกราคมชิ้นส่วนแผงเสียบปิดทางออกฉุกเฉินที่ไม่ได้ใช้นั้นได้หลุดออกจากเครื่องบิน 737 Max เหนือรัฐโอเรกอน โชคดีที่เครื่องบินสามารถลงจอดอย่างปลอดภัย จากการสอบสวนเบื้องต้นเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกือบจะเป็นภัยพิบัตินี้สรุปว่าสลักเกลียวที่ควรยึดแผงให้อยู่กับที่นั้นมันหลุดหายไป

เหตุการณ์ดังกล่าวกระตุ้นให้เกิดการสอบสวนภายในและชักนําให้หน่วยงานกํากับดูแลของรัฐบาลกลางเข้าไปยังโรงงานของ Boeing เพื่อตรวจสอบกระบวนการผลิต ไม่เพียงเท่านั้นเมื่อวันที่ 16 เมษายน มีผู้แจ้งเบาะแสได้อ้างว่าข้อบกพร่องที่ไม่มีใครรับรู้นี้สำหรับเครื่องบินรุ่น 787 Dreamliners เป็นอาการของ บริษัท ที่ “ไม่มีวัฒนธรรมความปลอดภัย”

ผลที่ตามมาอย่างทันท่วงทีของการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมคือการส่งมอบเครื่องบินที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ด้วยการส่งมอบเครื่องบินไอพ่นเชิงพาณิชย์เพียง 83 ลําในไตรมาสแรก เมื่อเทียบกับจำนวน 130 ลําเมื่อปีที่แล้ว และที่น่ายินดีแบบขัดๆคือจำนวน 142 ลําส่งโดย Airbus ซึ่งเป็นคู่แข่งสําคัญของ Boeing จากฝั่งยุโรป (ดูแผนภูมิ)

ความเสียหายนั้นเกิดขึ้นอย่างชัดเจนเมื่อ Dave Calhoun นายใหญ่ได้นําเสนอผลประกอบการรายไตรมาสเมื่อวันที่ 24 เมษายน หลังจากประกาศผลประกอบการขาดทุนสุทธิ 355 ล้านดอลลาร์ เขาก็พยายามสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนที่สงสัยว่า บริษัท มีความคืบหน้าที่ดีในการแก้ไขปัญหาการผลิตหรือไม่ รวมไปถึงเป็นคําถามที่ยังค้างเติ่งว่าใครจะมาแทนที่นาย Calhoun นี้ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้วได้ประกาศว่าจะลาออกสิ้นปีนี้ ท่ามกลางความสั่นคลอนครั้งใหญ่ของฝ่ายบริหารและการแต่งตั้งประธานคนใหม่ทันที

แผนภูมิ: The Economist

ผู้สืบทอดของนายคาลฮูนจะต้องเผชิญกับการรับช่วงต่อที่ไม่น่าอิจฉาเท่าใดนัก การเปรียบเทียบเสมือนบุญหล่นทับของ Airbus นั้นเน้นย้ำให้เห็นถึงการสไลด์ลงของ Boeing ในปี 2017 มูลค่าตลาดของ Boeing เป็นสองเท่าครึ่งของคู่แข่งที่มีเพียงแค่รายเดียว แต่ตอนนี้มีมูลค่าประมาณเดียวกันแล้ว

ตั้งแต่ปี 2019 เมื่อฝูงบิน 737 Max ทั้งหมดถูกสั่งห้ามขึ้นบินเป็นเวลาเกือบสองปีหลังจากอุบัติเหตุร้ายแรงสองครั้งที่เกิดจากซอฟต์แวร์ที่ผิดพลาด การขาดทุนรายปีของ Boeing นั้นก็สะสมไปถึง 2.45 หมื่นล้านดอลลาร์ และในช่วงเวลาเดียวกันนั้น Airbus กลับสามารถทํากําไรได้เกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ คําสั่งซื้อเครื่องบินจำนวน 6,200 ลําของ Boeing นั้นห่างไหล 8,600 ลําจากบัญชีของบริษัทในยุโรปอย่างมาก

รากเหง้าของวิกฤตการณ์มากมายของ Boeing สรุปโดย Aviation Strategy ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาได้ว่า “ความหลงใหลในผลประกอบการรายไตรมาสและแรงเหวี่ยงขึ้นของราคาหุ้น” ส่งผลให้มีการคืนเงินให้กับผู้ถือหุ้นมากเกินไปและใส่เงินจำนวนน้อยเกินไปในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่หรือรับประกันคุณภาพการผลิต โดยระหว่างปี 2014 ถึง 2020 นั้น Boeing ได้จ่ายเงินปันผลและซื้อหุ้นบริษัทคืนรวมกันเป็นมูลค่า 6.1 หมื่นล้านดอลลาร์ มันไม่ใช่แค่เพียงผู้ถือหุ้นเท่านั้นที่ได้รับประโยชน์นี้ เหล่าผู้จัดการซึ่งโบนัสนั้นผูกกับราคาหุ้นที่พุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน

Ron Epstein จาก Bank of America ตั้งข้อสังเกตว่าการควบรวมกิจการกับ McDonnell Douglas ในปี 1997 ได้คาดการณ์ถึง “การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมออกห่างจากความเป็นเลิศทางวิศวกรรม” Boeing เริ่มสนับสนุนการจัดการทางการเงินระยะสั้นในอุตสาหกรรมที่ต้องการความเป็นระยะยาว ในขณะที่ Airbus มุ่งเน้นไปที่นักลงทุนน้อยลงและให้ความสําคัญกับเครื่องบินมากขึ้นซึ่งมีวงจรชีวิตและอายุการใช้งานที่วัดได้ในรอบหลายทศวรรษ

การกู้ย้อนกลับการไหลลงของวัฒนธรรมนี้จะเป็นงานที่ยากที่สุดสําหรับเจ้านายคนใหม่ มันอาจต้องใช้เวลาหลายปี สิ่งที่ผู้ที่มาแทนนาย Calhoun นั้นจะต้องทำทันทีคือจะต้องเพิ่มการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 Max และแนะนําตัวแปรใหม่ของเครื่องบินรุ่นนี้และเครื่องบินระยะไกลอื่นๆ ให้ได้รับการรับรองก่อน ในเวลาเดียวกันเขาหรือเธอต้องเตรียมพื้นฐานสําหรับเครื่องบินโดยสารระยะสั้นรุ่นต่อไป สายการบินต่างๆโกรธ Boeing สําหรับความล่าช้าในการส่งมอบ 737 Max หน่วยงานกํากับดูแลที่รอแผนของ Boeing ในการปรับปรุงการควบคุมคุณภาพได้จํากัดการผลิตไว้ที่ 38 ลำต่อเดือน ปัญหาของ Boeing หมายความว่าไม่คาดว่าจะถึงอัตรานั้นจนกว่าจะถึงปลายปี ซึ่งถึงเวลานั้น Airbus อาจจะทำได้ถึง 65 ลำ สำหรับรุ่นที่แข่งขันกันอย่าง A320S

ความล่าช้าอาจมีผลกระทบอย่างยาวนาน การเปลี่ยนไปใช้ Airbus ไม่ใช่เรื่องง่ายสําหรับสายการบิน เพราะบริษัทในยุโรปไม่มีช่องจัดส่งฟรีสําหรับเครื่องบินไอพ่นระยะสั้นจนถึงสิ้นทศวรรษนู่นเลย แต่ประเด็นอาจเกิดขึ้นเมื่อสายการบินเริ่มรู้สึกว่าไม่สามารถพึ่งพา Boeing ได้อีกต่อไป มีข่าวลือว่า United Airlines กําลังพิจารณาเปลี่ยนคําสั่งซื้อสําหรับ 737 Max รุ่นที่ใหญ่กว่าซึ่งช้ากว่ากําหนดห้าปี แต่ยังคงรอการรับรอง แต่ยังไม่มีความหวังในการจัดส่งเลย

การพึ่งพาชื่อเสียงในอดีตของ Boeing ในฐานะยักษ์ใหญ่ด้านอุตสาหกรรมของอเมริกานั้นไม่ช่วยอะไร ดังที่คุณ Epstein ตั้งข้อสังเกต มันอาจจะ “ใหญ่เกินไปที่จะล้ม แต่ก็ไม่ใหญ่เกินไปที่จะเป็นแค่เพียงเกรดธรรมดา” Boeing ที่กําลังดิ้นรนอาจจะเปิดประตูให้มีผู้ท้าชิงได้ COMAC บริษัทสัญชาติจีน มีแผนอันยาวนานที่จะทําลายการผูกขาดของคู่หู Boeing-Airbus นี้ แม้ว่าจะยังไม่มีเครื่องบินที่สามารถแข่งขันกับ Boeing หรือ Airbus ได้อย่างแท้จริง Embraer ผู้ผลิตเครื่องบินไอพ่นระดับภูมิภาคขนาดเล็กกว่าของบราซิลสามารถขยับไปยังเครื่องบินที่ใหญ่กว่าได้

เครื่องบินไอพ่นระยะสั้นรุ่นใหม่ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเข้าประจําการประมาณปี 2035 เป็นอีกความสําคัญหนึ่ง มันเป็นงานใหญ่และมีราคาแพงที่นาย Calhoun คิดว่าจะใช้เงินถึง 5 หมื่นล้านดอลลาร์ สําหรับความเชื่อมั่นของนักลงทุนแล้ว นั่นเป็นตัวเลขถึงเกือบสองเท่าสําหรับการออกแบบเครื่องบินแบบเริ่มใหม่ทั้งหมดก่อนหน้านี้ของ Boeing การเลือกเทคโนโลยีที่เหมาะสมเป็นงานที่ Boeing ต้องทําให้ถูกต้อง แต่ผู้สังเกตการณ์บางคนกลัวว่า บริษัท ซึ่งไม่ได้เปิดตัวเครื่องบินใหม่เลย ตั้งแต่รุ่น 787 ในปี 2004 โน้น อาจสูญเสียความทรงจําของสถาบันไปแล้วสําหรับการดําเนินการครั้งใหญ่เช่นนี้

เจ้านายคนใหม่จะสืบทอดอาการปวดหัวอื่นๆด้วย หนึ่งในสามของรายได้ของ Boeing มาจากแผนกป้องกันประเทศและอวกาศ ในอดีตผลกําไรเหล่านั้นได้ช่วยโอบอุ้มป้องกัน Boeing จากวงจรของธุรกิจเครื่องบินโดยสาร แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมานั้นพวกเขากลายเป็นขาดทุนแล้ว Boeing ได้จัดการข้อตกลงการกำหนดราคาคงที่ผิดพลาด แม้ว่า Pentagon จะสนับสนุนสิ่งเหล่านี้มากขึ้นในสัญญา “การบวกต้นทุน” (cost-plus) แบบเดิม ซึ่งช่วยขจัดความเสี่ยงทางการเงินส่วนใหญ่จากผู้รับเหมา Boeing ยังตามหลัง SpaceX ของ Elon Musk ซึ่งจรวดให้บริการสถานีอวกาศนานาชาติอยู่แล้ว และ Starliner ซึ่งเป็นยานพาหนะคู่แข่งจาก Boeing ก็ยังไม่ได้ทําการบินทดสอบลูกเรือ

แล้วใครจะเอาบังเหียนนี้? ผู้สมัครจากภายนอกยังดูบางตานัก Larry Culp ผู้ซึ่งประสบความสําเร็จในการหันหลังให้กับ GE อีกบริษัทใหญ่ที่มีปัญหาอีกรายของ America Inc ดูเหมือนจะตัดตัวเองออกไปแทน Bill Brown ซึ่งเป็นผู้นําการควบรวมกิจการที่ในปี 2019 ที่ได้ก่อตั้ง L3Harris ซึ่งเป็นบริษัทด้านการป้องกันประเทศ ก็ไปรับงานที่ 3M แทน 

Pat Shanahan ซึ่งปัจจุบันเป็นหัวหน้าของ Spirit AeroSystems ซึ่งเป็นหนึ่งในซัพพลายเออร์ของ Boeing อาจเป็นตัวยงมาแทน แต่เป็นเพราะข้อเท็จจริงที่ว่า Boeing กําลังมองหาที่จะซื้อบริษัทของเขาในความพยายามที่จะปรับปรุงการกํากับดูแล คนวงในที่น่าเป็นไปได้ที่สุดคือ StephaniePope ซึ่งได้รับการเลื่อนตําแหน่งให้เป็นหัวหน้าแผนกเครื่องบินพาณิชย์ในการสับเปลี่ยนครั้งล่าสุด ในอดีตการรับงานตำแหน่งสูงสุดที่ Boeing อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดอะไรเยอะ แต่ตอนนี้คุณ Pope หรือใครก็ตามก็อาจจะคิดนานและหนักหน่อยเกี่ยวกับเรื่องนี้

แหล่งข่าวต้นฉบับ: Can anyone pull Boeing out of its nosedive? (economist.com)

Leave a Reply